• 00
  • :
  • 00
  • :
  • 00
  • 00
  • :
  • 00
  • :
  • 00
  CALC  

จากข้อมูลเรื่อง "แก๊สเรือนกระจกกับภาคการเกษตร" ทางด้านขวา ให้ตอบคำถามต่อไปนี้

ข้อมูลของแก๊สเรือนกระจกจากภาคการเกษตรที่สำคัญ 3 ชนิด เป็นดังนี้

แก๊สเรือนกระจก ระยะเวลาคงอยู่ในบรรยากาศ (ปี) สัดส่วนในบรรยากาศ (ร้อยละ) GWP* (จำนวนเท่าของ CO2 ในระยะเวลา 100 ปี) แหล่งกำเนิดแก๊สเรือนกระจกจากภาคการเกษตร
คาร์บอนไดออกไซด์ (CO2) 5 - 200 0.04 1 การเผาป่า หญ้า หรือฟางข้าวหลังการเก็บเกี่ยว
มีเทน (CH4) 12.4 0.00015 28 การกำจัดซากพืชด้วยวิธีฝังกลบ/ใช้เป็นวัสดุคลุมดิน,
การทำนาข้าวที่มีน้ำขัง, การทำฟาร์มปศุสัตว์
ไนตรัสออกไซด์ (N2O) 121 0.00003 265 การใช้ปุ๋ยไนโตรเจน
*หมายเหตุ GWP (Global Warming Potential) หรือ ค่าศักยภาพในการทำให้เกิดภาวะโลกร้อน เป็นความสามารถในการดูดกลืนความร้อนของแก๊สเรือนกระจกแต่ละชนิดเมื่อเปรียบเทียบกับแก๊สคาร์บอนไดออกไซด์ปริมาณ 1 ตัน ภายในระยะเวลา 100 ปี เท่ากัน

จากข้อมูล ข้อความต่อไปนี้ถูกต้องใช่หรือไม่ ให้คลิกคำตอบคำว่า “ใช่” หรือ “ไม่ใช่” ในแต่ละประเด็น

ข้อความใช่ไม่ใช่
1) การนำของเสียจากมูลสุกรไปผลิตเป็นแก๊สชีวภาพเพื่อผลิต
   พลังงานไฟฟ้าจะช่วยลดภาวะเรือนกระจกจากแก๊สที่เกิดจาก
   ภาคการเกษตรได้
2) ในปริมาณที่ปล่อยออกสู่บรรยากาศเท่ากัน แก๊สไนตรัส
   ออกไซดจะส่งผลต่อการเพิ่มขึ้นของอุณหภูมิเฉลี่ยของโลก
   มากกว่าแก๊สคาร์บอนไดออกไซด์
3) แก๊สเรือนกระจกที่ปล่อยออกสู่บรรยากาศจากการทำนาข้าวที่มี
   น้ำขัง จะมีโอกาสส่งผลกระทบต่อการเปลี่ยนแปลงภูมิอากาศ
   มากกว่าแก๊สเรือนกระจกจากการใช้ปุ๋ยไนโตรเจนในการเกษตร


แก๊สเรือนกระจกกับภาคการเกษตร

ปัญหาโลกร้อนที่เกิดขึ้นในปัจจุบันมีสาเหตุมาจากปริมาณแก๊สเรือนกระจกที่เพิ่มมากขึ้นในบรรยากาศ โดยแหล่งปล่อยแก๊สเรือนกระจกส่วนใหญ่เกิดจากกิจกรรมของมนุษย์ ซึ่งจากข้อมูลในปี พ.ศ. 2563 ของ ClimateWatch รายงานว่า ภาคการเกษตรของประเทศไทยมีปริมาณการปล่อยแก๊สเรือนกระจกมากเป็นลำดับที่ 3 รองจากภาคพลังงานและภาคอุตสาหกรรม โดยมาจากกิจกรรมการปลูกพืชและการเลี้ยงสัตว์ การปลูกข้าว การใส่ปุ๋ยและปูน การเผาเศษวัสดุทางการเกษตร การหมักในระบบย่อยอาหารสัตว์เคี้ยวเอื้อง และการจัดการ
มูลสัตว์ เป็นต้น